Wednesday, December 20, 2006

คำแถลงของผู้ประกอบการ

The Bootstrapper’s Manifesto

I am a bootstrapper. I have initiative and insight and guts, but not much money. I will succeed because my efforts and my focus will defeat bigger and better-funded competitors. I am fearless. I keep my focus on growing the business—not on politics, career advancement, or other wasteful distractions.

I will leverage my skills to become the key to every department of my company, yet realize that hiring experts can be the secret to my success. I will be a fervent and intelligent user of technology, to conserve my two most precious assets: time and money.

My secret weapon is knowing how to cut through bureaucracy. My size makes me faster and more nimble than any company could ever be.

I am a laser beam. Opportunities will try to cloud my focus, but I will not waver from my stated goal and plan—until I change it. And I know that plans were made to be changed.

I’m in it for the long haul. Building a business that will last separates me from the opportunist, and is an investment in my brand and my future. Surviving is succeeding, and each day that goes by makes it easier still for me to reach my goals.

I pledge to know more about my field than anyone else. I will read and learn and teach. My greatest asset is the value I can add to my clients through my efforts.

I realize that treating people well on the way up will make it nicer for me on the way back down. I will be scrupulously honest and overt in my dealings, and won’t use my position as a fearless bootstrapper to gain unfair advantage. My reputation will follow me wherever I go, and I will invest in it daily and protect it fiercely.

I am the underdog. I realize that others are rooting for me to succeed, and I will gratefully accept their help when offered. I also understand the power of favors, and will offer them and grant them whenever I can.

I have less to lose than most -- a fact I can turn into a significant competitive advantage.

I am a salesperson. Sooner or later, my income will depend on sales, and those sales can be made only by me, not by an emissary, not by a rep. I will sell by helping others get what they want, by identifying needs and filling them.

I am a guerrilla. I will be persistent, consistent, and willing to invest in the marketing of myself and my business.

I will measure what I do, and won’t lie about it to myself or my spouse. I will set strict financial goals and honestly evaluate my performance. I’ll set limits on time and money and won’t exceed either.

Most of all, I’ll remember that the journey is the reward. I will learn and grow and enjoy every single day.

by Seth.

Monday, December 11, 2006

"กอด" แจกฟรี (Free Hugs)

ชอบจัง

ผมมีความเชื่อส่วนตัวมานานแล้วว่า "ถ้าพ่อแม่กอดลูกทุกวัน เด็กจะโตขึ้นมาเป็นคนดี ฉลาด มีสุขภาพจิตดี สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง" และ "บางทีการกอดก็เป็นวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ดี และง่ายแต่เรามักลืมกันไป หรือเขินอายจนไม่กล้าแสดงความรักต่อกัน"

Website ของโครงการ Free Hugs Campaign

บริการแปลงไปรษณีย์กระดาษให้เป็นอิเล็คทรอนิคส์

ในขณะที่การสื่อสาร และสื่อหลาย ๆ อย่างที่เราใช้กันอยู่ เช่น โทรศัพท์ มือถือ อีเมล์ แชท แฟกซ์ หนังสือ หนังสือพิมพ์ เป็นอิเล็กทรอนิคส์ หมดแล้ว แต่ทุก ๆ วันเราก็ยังต้องเดินไปหน้าบ้าน เปิดตู้จดหมาย คัดแยกระหว่างใบปลิวต่าง ๆ จดหมายของแต่ละคนในบ้าน จดหมาย นิตยสาร บิลค่าน้ำค่าไฟ ไม่ว่ามันจะเปื้อน เปียกน้ำ ซองขาด หรือปลิวหายไป เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เราเป็นเด็ก

ในอเมริกา และเดนมาร์กมีบริการใหม่เรียกว่า Remote Control Mail, e-Boks บริการแปลงไปรษณีย์กระดาษที่เราได้รรับ ให้เป็นอิเล็คทรอนิคส์ ทำ OCR, Tag ว่าเรื่องอะไร ได้รับวันไหน จากใคร เพื่อความสะดวกในการค้นหาและจัดเก็บ นำส่งถึง E-Mail Address ของเรา อย่างตรงเวลา แต่ถ้าต้องการต้นฉบับกระดาษก็ยังสามารถแจ้งผ่าน Web ให้มาส่งได้

นี่เป็นบริการอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กระดาษ เป็นการพัฒนาช่องทางในการสิ่อสารระหว่างรัฐและประชาชน ให้เป็นทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น บริการนี้เป็นบริการฟรี เนื่องจากทางบริษัทที่ส่งจดหมายสามารถส่งเป็น PDF แทนการซื้อแสตมป์สามารถลด Cost ได้มากกว่า 75% ปัจจุบันมีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 550 บริษัท เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ห้างสรรพสินค้า บริการทางการเงินต่าง ๆ ที่สื่อสารกับทั้งพนักงาน และลูกค้าผ่านช่องทางนี้

Friday, December 08, 2006

เซนในการทำงาน

หิวก็กิน ง่วงก็นอน เป็นแนวคิดแบบเซน ทางหลักธรรมชาติ

ในการทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ บางทีต้องจ้องจอเป็นเวลานาน นั่งอยู่ท่าเดียวครึ่งค่อนวัน บางทีไม่หลับไม่นอน กินอาหารผิดเวลา ดื่มน้ำน้อย อั้นปัสสาวะ เพื่อเร่งทำงานให้เสร็จ อาจทำให้ป่วยในระยะยาวได้ กลับ Productivity ตกอีก เช่นอาการโรค Repetitive Strain Injury (RSI) หรือ การบาดเจ็บตึงเครียดจากการทำซ้ำๆ (อาร์เอสไอ)

จึงมีคนทำโปรแกรมชื่อ Workrave โปรแกรมจะเตือนผู้ใช้ ทุก ๆ 10 นาที ว่าให้พักสายตา Relax ท่าทาง และทุก ๆ 1 ชั่วโมง ให้เปลี่ยนอิริยาบท ออกกำลังกาย ขยับแข้งขยับขา โดยมีตัวอย่างท่าทางตามหลักการผ่อนคลายที่ถูกต้องเป็นตัวอย่าง

Workrave is a program that assists in the recovery and prevention of Repetitive Strain Injury (RSI). The program frequently alerts you to take micro-pauses, rest breaks and restricts you to your daily limit.

หิวก็กิน ง่วงก็นอน และปฏิบัติตัวอย่าฝึนธรรมชาติ จึงจะประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างแท้จริง

Thursday, December 07, 2006

Spam Mail เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว

ทุกคนที่ใช้งาน E-Mail อยู่ คงรู้จัก Spam Mail หรือ Junk Mail เป็นอย่างดี ใน Inbox ของทุก ๆ คน ตอนนี้น่าจะมี Spam เมล์อยู่มากกว่า E-Mail ที่เราต้องการจริง ๆ

จากสถิติของครึ่งปีหลังปีที่แล้วเทียบกับปีนี้ จำนวน Spam Mail เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเท่าตัว และ E-Mail รับส่งกันทั่วทั้ง Internet จากการสุ่มตรวจพบว่าเป็น Junk Mail ถึง 9 ใน 10

ได้ยินแล้วน่าตกใจ ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร เลยมี Software มาแนะนำ 3 ตัว
  1. The Apache SpamAssassin Project ฟรี ติดตั้งบน Mail Server กรอง Junk Mail ก่อนจะเข้า Inbox ของเรา
  2. Symantec Mail Security for Exchange เสียตังค์ ติดตั้งบน Mail Server มีเวอร์ชันสำหรับ Domino, Instant Message, SMTP และ Anti-Virus ในตัว
  3. SpamBayes ฟรี ติดตั้งที่ Client มี Plug-in ต่อกับ Microsoft Outlook ใช้งานง่าย

โครงการใหม่ของเจ้าของ Million Dollar Homepage

จากที่นาย Alex Tew เคยประสบความสำเร็จจาก Million Dollar Homepage Website ที่ขายพื้นที่โฆษณา Pixel ละ 1USD ทั้งหมด 1,000 x 1,000 Pixel = 1,000,000 Pixel โดย Website นี้เปิดตัวขายพื้นที่ทีละ 10 x 10 Pixel ในวันที่ 26 สิงหาคม 2005 ไปจนกระทั่งประมูลขาย 1,000 Pixel สุดท้ายบน eBay ไปในวันที่ 11 มกราคม 2006 รวมรายได้ทั้งสื้น 1,037,100 USD รวยไปเลย

จนทำให้เกิด Website เลียนแบบ (Copy Cat) ออกมาเป็นจำนวนมาก

คราวนี้นาย Alex Tew กลับมาอีกครั้ง กับโครงการใหม่ที่ชื่อว่า Pixelotto เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2006 กับ Concept ใหม่ที่พัฒนาจาก Million Dollar Homepage ไปอีกขั้นหนึ่ง Pixelotto กำหนดราคาขายที่ Pixel 2 USD แต่ Alex ไม่ได้ขึ้นราคาเพราะหวังว่าคราวนี้จะได้เงิน 2,000,000 USD แต่จะเปิดโอกาสให้คนดูมีส่วนร่วมลุ้นเงินล้านด้วย แทนที่จะเข้ามาดู Ad อย่างเดียว

กฏใหม่คือ ถ้าคราวนี้นาย Alex ขายโฆษณาได้หมด 1,000,000 Pixel อีกครั้ง (ได้เงิน 2,000,000 USD) คนที่เข้าไปดู และ Click บน Ad จะได้ Pixel Lotto เพื่อลุ้นรางวัล 1,000,000 USD แต่ถ้าขายไม่หมดคนที่ชนะ Pixel Lotto ก็จะได้รับเงินรางวัลครึ่งนึงของรายได้

Idea กระฉูดจริง ๆ ไม่ได้ซับซ้อน หรือต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย สามารถเป็น Case Study ได้เลยในการธุรกิจ ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน Keep it simple but not simpler.

Friday, December 01, 2006

ตัวอย่างการ Design Form แบบ "Dialog" สารพัดประโยชน์




ข้อสังเกตว่าคุณกำลังออกแบบ Form แบบ "Dialog" สารพัดประโยชน์ (ประโยชน์เฉพาะต่อ Programmer) อยู่หรือไม่



  1. มีขนาดและสัดส่วน (aspect ratio/portrait aspect ratio) ที่ไม่เหมาะสมกับข้อมูล และการใช้งาน


  2. มี Control มากเกินไป มีหลาย Feature มาก มีทางเลือกให้ User หลายทางมาก


  3. ขนาด Font และสีของ Control ที่วางใกล้กัน สีไม่เหมือนกัน และแต่ละอันขนาดไม่เท่ากัน


  4. การใช้งาน Control ที่ไม่มาตรฐาน เช่นใช้ Check Box เป็น Hyperlink


  5. การจัดวาง Layout, Format ของ Controls ไม่เป็นรูปแบบมาตรฐานเดียวกันทั้งโปรแกรม


  6. แต่ละ Form ในโปรแกรม มี Design ไม่เหมือนกัน (Inconsistent)


  7. ขาดการ Navigation มาตรฐาน ไปยัง Feature อื่น Form อื่นที่เกี่ยวข้อง


  8. ทางเลือก แต่ละทางความหมายกำกวม ใกล้เคียงกัน


  9. ทางเลือกของ User ซับซ้อน ต้องใส่หลาย Input มาก จึงจะสามารถใช้งานได้


  10. ใช้ Grid, Property Sheet, Tab ใส่ใน Form เดียวกันจนเกินความจำเป็น
การ Design Form แบบ "Diabog" สารพัดประโยชน์ อาจเกิดขึ้นในช่วยแรกของการพัฒนาโปรแกรม ขณะที่ Programmer ต้องการ Research, Test Feature หลาย ๆ อย่าง โดยไม่ได้คิดว่าจะนำ Form เหล่านั้นไปให้กับ User จริง ๆ ใช้ แต่ในความเป็นจริง เรามักเห็น Form แบบนี้หลุดออกมาให้ User ใช้อยู่บ่อย ๆ ดังนั้น จึงควรมีการวางมาตรฐานการออกแบบ Form ตั้งแต่ระยะแรกของการพัฒนา หรือกำหนดเป็นมาตรฐานขององค์กร เพื่อให้เป็นมาตรฐานในทุก ๆ Application